วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ต้นทุนเหมืองทองคำสูง ปัจจัยแนวโน้มราคาทองคำขาขึ้นในอนาคต


นายอาราม ชิชมาเนียน ซีอีโอของสภาทองคำโลก (ดับบลิวจีซี) เปิดเผยว่า ต้นทุนการทำเหมืองที่พุ่งขึ้นอย่างมากจะทำให้ราคาทองจำเป็นต้องแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในเวลา 5 ปีเพื่อให้อุตสาหกรรมเหมืองยังคงสามารถทำกำไรได้




นายชิชมาเนียน กล่าวว่า ในปัจจุบัน ผู้ประกอบการเหมืองต้องการให้ราคาทองอยู่ที่ 1,300 ดอลลาร์เพื่อความอยู่รอด แต่ก็ต้องเผชิญกับต้นทุนการทำเหมืองที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านเงินปันผลและภาษีในประเทศที่ทำเหมือง

"หากต้นทุนเหล่านี้ยังคงมีอยู่ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ราคาทองก็จำเป็น ที่จะต้องอยู่ที่ระดับอย่างน้อย 3,000 ดอลลาร์เพื่อให้ธุรกิจเหมืองสามารถดำเนินต่อไปได้ แต่ก็เชื่อมั่นว่า อุปสงค์ที่ต่อเนื่องจะหนุนราคาทองขึ้นในระยะยาว" ซีอีโอสภาทองคำโลก กล่าว

ทั้งนี้ ราคาทองสปอต ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนครึ่งที่ 1,556.5 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อวานนี้ จากความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยุโรป ซึ่งปกตินั้น ทองมักเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุนในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจปั่นป่วน แต่เมื่อไม่นานมานี้ ราคาทองมีการซื้อขายตามสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ โลหะพื้นฐานและหุ้น
นายชิชมาเนียน กล่าวว่า อุปสงค์ในอนาคตจะมาจากตลาดเกิดใหม่ ธนาคารกลางและนักลงทุน โดยระบุว่าในขณะนี้จีนและอินเดียครองสัดส่วน 55% ของตลาดทองโลก

"ตลาดเกิดใหม่จะถือครองทองคำสำรองเพิ่มขึ้น เนื่องจากการถือครองเงินหลายพันล้านดอลลาร์ไม่ได้ช่วยอะไร แนวโน้มทุนสำรองทางเลือกจึงได้แก่ทอง" นายชิชมาเนียนระบุและว่า ปัจจุบันกองทุนอีทีเอฟ ถือครองทองคำมูลค่า 1.20 แสนล้านดอลลาร์

อ้างอิงข่าวจาก


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น